“ไอซ์ รักชนก ชะตากรรมผู้แทนฯ เมื่อ มาตรา 112 ขีดเส้นทางการเมือง”

“เมื่อหน้าที่ผู้แทนราษฎรต้องเผชิญชะตากรรมจากข้อกฎหมายที่สังคมจับมอง” — นั่นคือภาพรวมของเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ รักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” ส.ส.หญิงจากเขต 28 กรุงเทพมหานคร ที่ถูกดำเนินคดีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (“ม.112”) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งกลายเป็นชนวนให้เธออาจสิ้นสถานะผู้แทนฯ ในทันทีหากถูกพิพากษา — เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งใน “กระแสการเมือง – กฎหมาย – เสรีภาพ” ที่สังคมไทยจับตามองอย่างยิ่ง
ในบทความนี้ เราจะพาไปดู ประวัติของรักชนก, เบื้องหลังคดี ม.112, กระแสตอบรับในสังคม, ผลงานทางการเมือง, และบทสรุปของสถานการณ์ พร้อมคำถามยอดนิยม (FAQ) ที่หลายคนสงสัย


ประวัติ: จากนักกิจกรรมสู่นักการเมืองดาวรุ่ง
รักชนก ศรีนอก เริ่มมีชื่อในแวดวงกิจกรรมทางสังคม ก่อนจะก้าวเข้าสู่สนามการเมืองในฐานะผู้สมัคร ส.ส. จากพรรค พรรคก้าวไกล (ณ เวลานั้น) ในเขต 28 กรุงเทพมหานคร (บางบอน – หนองแขม – จอมทอง) และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ด้วยคะแนนเสียงตามข้อมูลที่ระบุไว้ว่า เธอใช้นโยบายที่ประชาชน “เข้าใจปัญหา พึ่งพาได้จริง ไม่ละทิ้งอุดมการณ์” โดยมีภาพลักษณ์ของหญิงรุ่นใหม่ที่ใช้วิธีหาเสียงแบบรักษ์โลก เช่น ปั่นจักรยานหาเสียงในพื้นที่ ฯลฯ
ก่อนจะเข้าสู่การเมืองเต็มตัว เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี (วิทยาศาสตร์) จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีประสบการณ์ด้านธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทำให้เธอมีจุดยืนด้านเศรษฐกิจฐานรากและการกระจายผลประโยชน์อย่างประชาธิปไตยในแคมเปญหาเสียงของเธอ 
การได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (เขต 28) ถือว่าเธอเป็น “ดาวรุ่ง” ในพรรคก้าวไกล และถูกจับตามองว่าอาจเป็นหนึ่งในตัวแทนรุ่นใหม่ของการเมืองไทย อย่างไรก็ดี ชัยชนะนั้นกลับนำมาซึ่งภาระของคดีความในเวลาอันสั้น

112 ALERT : ชวนรู้จักคดี 112 ของไอซ์-รักชนกก่อนศาลมีคำพิพากษาที่อาจหลุดเก้าอี้สส. - iLaw


เบื้องหลังคดี มาตรา 112: ระเบิดการเมืองในพื้นที่ออนไลน์
คดีของรักชนกเริ่มจากการถูกกล่าวหาว่า โพสต์ข้อความและรีทวีต (บนแพลตฟอร์ม Twitter) ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และการพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยโจทก์คือประชาชนทั่วไป มณีรัตน์ เลาวเลิศ ที่ได้แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ที่ บก.ปอท.
รายละเอียดของพฤติการณ์คือ:

  • โพสต์ครั้งแรก วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 โดยข้อความว่า “พูดตรงๆนะ ที่พวกเราต้องมาเจอวิกฤตวัคซีนแบบทุกวันนี้…” พร้อมภาพป้ายที่มีข้อความว่า “ทรราช (คํานาม) TYRANT ; ผู้ปกครองบ้านเมืองที่ใช้อํานาจ…” ซึ่งถูกพิจารณาว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทตามมาตรา 112

  • โพสต์ครั้งที่สอง วันที่ 18 (หรือ 16) ตุลาคม 2563 เป็นภาพจากการชุมนุม #16ตุลา… ซึ่งมีข้อความสื่อถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ และต่อมาถูกรีทวีตโดยบัญชีของรักชนก

เมื่อพนักงานสอบสวนดำเนินการแล้ว วันที่ 29 กันยายน 2564 ได้มีหมายเรียกรักชนกไปให้ถ้อยคำ
ศาลอาญาในวันที่ 13 ธันวาคม 2566 พิพากษาให้จำคุกรวม 6 ปี (2 กระทง กระทงละ 3 ปี) โดยเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 
อย่างไรก็ดี ในภายหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกัน 500,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกันอีก

นอกจากนี้ มีการอ้างว่า หากศาลตัดสินให้จำเลยเข้าเรือนจำโดยไม่ให้ประกันตัวทันที จะทำให้รักชนก “พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.” ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (6) ทันที และจะมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมในเขตนั้น


กระแสสังคมและการเมือง: เสียงผู้สนับสนุน VS เสียงวิจารณ์
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่สังคมไทยจับตาอย่างมาก ทั้งในมิติเสรีภาพในการแสดงออก, การเมืองสี แดง–น้ำเงิน, และบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์

  • ฝ่ายสนับสนุนรักชนก เห็นว่าเธอเป็นตัวแทนของการเมืองแบบใหม่ ท้าทายโครงสร้างเก่า และเป็นผู้ใช้โซเชียลมีเดียอย่างเปิดเผยเพื่อสื่อสารกับประชาชน การถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 จึงถูกมองว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพพูด – แสดงออก

  • ฝ่ายวิจารณ์ มองว่า ประเด็นที่รักชนกพูดหรือโพสต์นั้นเข้าใกล้ “ข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” ซึ่งกฎหมายไทยถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง และการใช้ฟีเจอร์รีทวีตที่ส่งต่อข้อความจากบัญชีอื่นอาจถูกสังคมมองว่าเป็นการ “สนับสนุน” หรือ “เผยแพร่”

  • ในทางการเมือง คดีนี้ส่งสัญญาณว่า ผู้แทนที่มีบทบาทในโลกออนไลน์ – โซเชียลมีเดีย จะต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ มาตรา 112 ยังถูกใช้อย่างต่อเนื่อง

  • ในแง่ของสื่อและประชาชน มีการเตือนถึงการแชร์ข่าวปลอม หรือการบิดเบือนข้อมูล (“เฟก นิวส์”) เช่น กรณีที่มีข่าวปล่าวว่า รักชนกถูกจับอีกครั้งและจะยุบพรรค

ด้วยเหตุนี้ คดีของรักชนกจึงไม่ใช่เพียงกรณีของนักการเมืองคนหนึ่ง แต่เป็น “จุดตัด” ระหว่างเสรีภาพ – ความรับผิดชอบ – การเมืองยุคดิจิทัล


ผลงานทางการเมืองและนโยบายที่ถูกจับตา
แม้คดี ม.112 จะเป็นข่าวโดดเด่น แต่รักชนกก็ได้สร้างผลงานในฐานะ ส.ส. ความโดดเด่นบางประการ เช่น:

  • การเน้นนโยบาย “สวัสดิการครอบคลุมทุกช่วงชีวิต” และการกระจายผลประโยชน์สู่ประชาชนรากหญ้า

  • การหาเสียงในพื้นที่เขต 28 ด้วยวิธีที่แตกต่าง เช่น ปั่นจักรยานหาเสียง, แจกนโยบายเป็นมาลัยคล้องคอประชาชน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมโดยตรง

  • การเป็นตัวแทนของเสียงคนรุ่นใหม่ในพรรค และการแสดงออกทางการเมืองผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น คลับเฮ้าส์, ทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาในการทำหน้าที่ ส.ส. ถูกจำกัดโดยคดีความ ซึ่งส่งผลให้ “โอกาสในการผลักดันนโยบาย” ถูกชะลอหรือแทรกแซงโดยภาวะวิกฤตทางกฎหมาย


ผลกระทบและความหมายเชิงโครงสร้าง
การที่รักชนกถูกพิพากษาในคดี ม.112 และอาจ “พ้นจากตำแหน่ง” หากไม่สามารถประกันตัวเป็นเครื่องเตือนไปยังนักการเมืองรุ่นใหม่ทุกคน เพราะ:

  • มีผลต่อ สถานะผู้แทนฯ โดยตรง: หากถูกจำคุกหรือไม่ได้รับการประกันตัว จะหลุดจากตำแหน่ง ส.ส. ทันทีตามรัฐธรรมนูญ

  • ส่งสัญญาณว่าการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสื่อสารทางการเมืองมีความเสี่ยง: ข้อความหรือรีทวีตอาจกลายเป็นประเด็นทางกฎหมายได้

  • เป็นบททดสอบของ เสรีภาพในการแสดงออก ในบริบทไทย: สนามการเมืองยุคใหม่ที่ข้ามพรมแดนระหว่าง “ออนไลน์” และ “ออฟไลน์”

  • แสดงให้เห็นว่า กฎหมาย ม.112 ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในระบบกฎหมายไทย และมีผลต่อโครงสร้างทางการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม


สรุป
เรื่องของรักชนก ศรีนอก เป็นมากกว่าคดีอีกคดีหนึ่ง — มันคือสัญลักษณ์ของการเมืองยุคใหม่ในประเทศไทย ที่รวมเอา เสรีภาพ – กฎหมาย – โซเชียลมีเดียเข้าไว้ด้วยกัน
แม้เธอจะมีผลงานและภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะผู้แทนราษฎร แต่เมื่อเจอกับบททดสอบทางกฎหมายอย่าง ม.112 ก็ทำให้เส้นทางการเมืองของเธอต้องหยุดชะงัก และเปิดวงให้สังคมตั้งคำถามถึง “สิ่งที่ผู้แทนในยุคดิจิทัลควรทำได้” และ “สิ่งที่สังคมจะยอมรับได้”
ไม่ว่าในอนาคตผลการอุทธรณ์จะเป็นอย่างไร แต่บทเรียนจากกรณีนี้จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการเมืองไทยยุคหน้า


FAQ – คำถามที่พบบ่อย

  1. ถาม: มาตรา 112 คืออะไร?
    ตอบ: มาตรา 112 หรือ “หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ” เป็นมาตราที่อยู่ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย กำหนดโทษผู้ที่ “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย” ต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี รัชทายาท หรือผู้สำคัญในราชวงศ์ และมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

  2. ถาม: เหตุใดหาก ส.ส. ถูกจำคุกแล้วจะพ้นจากตำแหน่ง?
    ตอบ: ตามรัฐธรรมนูญไทย หากผู้แทนฯ ถูกสั่งจำคุกหรือถูกคุมขัง จะถือว่าละเมิดคุณสมบัติการเป็นผู้แทนฯ ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุดตำแหน่ง และต้องมีการจัดเลือกตั้งซ่อมในเขตนั้น

  3. ถาม: การรีทวีตหรือแชร์โพสต์ถือว่ามีความผิดภายใต้ ม.112 ด้วยหรือไม่?
    ตอบ: ในกรณีของรักชนก ศาลพิจารณาว่า การรีทวีตข้อความที่มีเนื้อหาต่อต้านสถาบันและรีทวีตภาพดังกล่าวถือเป็น “เผยแพร่” ซึ่งอยู่ในขอบเขตความผิดตาม ม.112 ตามที่ศาลได้วิเคราะห์พยานหลักฐาน

  4. ถาม: หากถูกพิพากษาแล้วสามารถอุทธรณ์ได้หรือไม่?
    ตอบ: ได้ — ผู้ถูกพิพากษาสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาได้ และหากศาลชั้นต้นกำหนดเงื่อนไขให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จนกว่าคำอุทธรณ์จะถึงที่สุด

  5. ถาม: เรื่องนี้ส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงออกของผู้แทนฯ อย่างไร?
    ตอบ: กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ในยุคของโซเชียลมีเดีย ผู้แทนฯ ที่ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับประชาชน มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อข้อความหรือโพสต์นั้นเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์

  6. ถาม: แล้วอนาคตของรักชนกจะเป็นอย่างไร?
    ตอบ: ขึ้นอยู่กับผลการอุทธรณ์และการปฏิบัติตามเงื่อนไขประกันตัว หากคดีถึงที่สุดโดยศาลยืนยันโทษจำคุกโดยไม่ให้ประกันตัว ก็อาจทำให้เธอพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และสูญเสียสิทธิทางการเมือง อย่างไรก็ดี ถ้าได้รับการประกันและอุทธรณ์ได้ก็อาจกลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อได้

 

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *